“กรุงแตก” ถือเป็นนิยายอิงประวัติศาสตร์อีกหนึ่งเรื่อง ผลงาน “หลวงวิจิตรวาทการ” บอกเล่าถึงความกล้าหาญของคนชนชั้นธรรมดา ชาวบ้าน ทีรักชาติบ้านเมือง รักแผ่นดินเกิด จึงสร้างวีรกรรมความห้าวหาญในการปกป้องอธิปไตยจนเฮือกสุดท้ายของลมหายใจก่อนที่กรุงจะแตก!
สมัยอยุธยาตอนปลาย พม่าเหยียบย่างเข้ามาถึงชานพระนคร สร้างฝันร้ายและความพินาศย่อยยับให้กับแผ่นดินกรุงศรีฯ วีรกรรมของเหล่าวีรชนได้สู้รบแบบตามมีตามเกิดขาดการสนับสนุนจากกรุงศรีฯ กระนั้นยังมี “ขุนรองปลัดชู” ครูดาบอาทมาต รวบรวมลูกศิษย์ ๔๐๐ คนนำกำลังสมทบกับกองทัพพระยารัตนาธิเบศร์ ตั้งทัพสกัดพม่าอยู่ที่อ่าวหว้าขาว อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ยุทธการที่หาดหว้าขาว สร้างเรื่องราวยิ่งกว่านิยาย กองอาทมาตจำนวนน้อยกว่าพม่า การรบที่ขาดกำลังเสริมเพราะแม่ทัพเจ้าพระยารัตนาธิเบศร์หนีทัพไม่อยู่ช่วยเหลือ ทำให้กองอาทมาตของขุนรองปลัดชูถูกสังหารจนหมดสิ้นทั้ง ๔๐๐ คน
ยังมีอีกหนึ่งเกียรติคุณคือ ชาวบ้านบางระจัน ชาวเมืองสิงห์บุรี และเมืองใกล้เคียง นักรบไร้ศักดินา ไร้ยศถาบรรดาศักดิ์ พวกเขาเหล่านี้ได้สามารถต้านทานการเข้าตีพม่าได้หลายครั้ง แต่ด้วยความขลาดเขลาของผู้นำชาติ สร้างความพินาศให้แก่แผ่นดิน ชาวบางระจันสุดจะต้านทานทัพพม่าไว้ได้ ทำให้ทัพพม่าตีค่ายบางระจันแตก นับเป็นการสูญเสียกรุงศรีอยุธยาเลยทีเดียว เพราะคู่ปรับอันแท้จริงของพม่าอยู่ที่บางระจันนั่นเอง