ในอดีต แต้เจียวหรือสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชที่ทรงเป็นกษัตริย์เสียมหลอหรือสยาม ได้ทรงชวนคนแต้จิ๋วให้ไปทํามาหากินที่นั่น พระองค์มีบรรพบุรุษจากเมืองเท่งไฮ้ ซัวเถา พูดภาษา แต้จิ๋วเหมือนกัน ในแต่ละปีจึงมีคนแต้จิ๋วไปเสียมหลอกันมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะความยากจน แห้งแล้งกันดาร ทั้งเหตุการณ์บ้านเมืองก็มีแต่ความขัดแย้ง มีศึกสงคราม ไม่เพียงแต่คนแต้จิ๋ว คนกวางตุ้งที่ร่วมมณฑลก็อพยพไปไม่น้อย คนฝูเจี้ยนหรือฮกเกี้ยนที่อยู่ต่างมณฑล คนฮากกา หรือจีนแคะก็ต่างอพยพข้ามน้ำข้ามทะเลไปยังเสียมหลอกันหมด เพราะเข้าประเทศไม่ยาก เพียงแต่ซื้อตั๋วเรือแล้วไปตายเอาดาบหน้า อีกอย่าง ทางเสียมหลอก็ยินดีต้อนรับพวกเราให้ไป ทํามาหากิน ค้าขายได้ บางคนเป็นเจ้าสัวร่ำารวยเป็นเจ้าของกิจการ…ฟ้าประทานพรให้คนแต้จิ๋ว ไปเจริญก้าวหน้าที่นั่น คนขยันทํามาหากินไปแล้วสู้ชีวิตและอดทน ไม่มีวันอดตาย
บักลั้งก็เป็นหนึ่งในจํานวนคนเหล่านี้ด้วยเช่นกัน พลัน..เธอก็ได้ยินเสียงของชายคนหนึ่ง พูดด้วยความปราโมทย์ยินดีว่า “มีข้าวต้มร้อนๆ ต้อนรับพวกเราด้วย ไม่ใช่มีแต่น้ำข้าวเหมือนที่บ้านเรา มีเมล็ดข้าวด้วย พวกเรารอดตายแล้ว” แล้วน้ำตาเธอก็ไหลรินเปี่ยมสุข…มองไปเบื้องบนเห็นแสงสีทองทาทาบบนผืน “ฟ้าใหม่” ที่ทอแสงสวยงามจับใจ