ประกอบไปด้วยตอน
- ไปรบเวียงจันทร์ (ไปเวียงจันทร์)
- บุกฝั่งโขง (สงครามชิงดินแดน)
- ทหารสามเกลอ (ถิ่นไทยแดนไทย)
วันหนึ่งเจ้าคุณปัจจนึกฯ ได้รับจดหมายฉบับนึง ลายมือจ่าหน้าซองตัวอักษรตะละตัวเกือบเท่าหม้อแกงโย้หน้าโย้หลัง ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นจดหมายจากใคร แต่เมื่อรู้ว่าจดหมายถูกส่งมาจากจังหวัดหนองคาย ก็รู้ทันทีว่ามันจะเป็นจดหมายของใครอื่นไม่ได้นอกจากของ นายอี๊ด ศิริสวัสดิ์ น้องชายร่วมสายโลหิตของท่านเจ้าคุณปัจจนึกฯ นั่นเอง พอจำลายมือน้องชายได้ท่านเจ้าคุณก็รู้สึกเศร้า เพราะอี๊ดมีฐานะยากจนมาก มีความเป็นอยู่อย่างแร้นแค้น บุตรภรรยาก็ไม่มี เจ้าคุณคิดว่าอี๊ดส่งข่าวแจ้งทุกข์สุขมาให้ทราบเหมือนเช่นเคย แต่ข้อความในจดหมายกลับกลายเป็นจดหมายขอความช่วยเหลือ เนื่องจากอี๊ดได้ข้ามไปขายของอยู่ที่เวียงจันทน์ และไทยได้เกิดสงครามทวงคืนดินแดนกับฝรั่งเศส อ้ายเศสมันไม่ยอมให้คนฝั่งเวียงจันทน์ข้ามกลับมาเลย อี๊ดเลยกลับไทยมาไม่ได้ ต้องอาศัยโฮเต็ลอยู่ อัฐก็ร่อยหรอลงไปทุกที
“คุณพี่อู๊ดครับ ผมอยากกลับมาฝั่งบ้านเราเหลือเกิน แต่ผมจนปัญญามาไม่ได้ เมื่อคุณพี่ได้รับหนังสือนี้แล้ว ให้ขอหนังสือเดินทาง และรีบไปพบผมที่เวียงจันทน์เพื่อรับผมกลับบ้าน” จดหมายฉบับนี้จบลงด้วยหัวใจเดือดพล่าน ความเจ็บช้ำน้ำใจในเหตุการณ์ที่ฝรั่งเศสเคยข่มเหงรังแกไทยตั้งแต่ ร.ศ.๑๑๒ ทำให้เจ้าคุณปัจจนึกฯ ขบกรามแน่น เจ้าคุณปัจจนึกฯ เป็นห่วงน้องชายมาก ถ้าอี๊ดตกค้างอยู่ที่เวียงจันทน์ เขาอาจถูกอ้ายเศสฆ่าตายก็ได้ เจ้าคุณปัจจนึกฯ ก็ตกลงใจที่จะเดินทางไปเวียงจันทน์เพื่อสืบหาอี๊ด และรับกลับมาเมืองไทย นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้ทำงานเป็นแนวที่ ๕ สืบสวนการเคลื่อนไหวของฝรั่งเศสอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม การไปตัวคนเดียวย่อมมีอันตรายมาก จึงรวบรวมสมัครพรรคพวกและเริ่มออกเดินทางสู่เวียงจันทน์