โศกนาฏกรรมทางทะเลที่โลกไม่มีวันลืม นั่นคือ เรือไททานิก ที่ไดรับฉายาว่า “เรือที่ไม่มีวันจม” ได้อับปางลง และจมลงสู่ก้นมหาสมุทรแอตแลนติก เมื่อวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1912 ซึ่งเป็นการเดินทางครั้งแรกของเรือไททานิก จากเซาแทมป์ตันไปนครนิวยอร์ก เรื่องราวของไททานิกก็อาจพร่าเลือนจากความจำของผู้คน ทว่าเรื่องราวของไททานิกก็กลับมาอีกครั้ง เมื่อเรือดำน้ำไททัน นำมหาเศรษฐีเที่ยวชมซากเรือและไม่มีสัญญาณการติดต่อ ซึ่งเป็นข่าวระดับโลก จากข่าวนี้ ทำให้ไททานิกกลับมาเป็นที่สนใจของผู้คนอีกครั้ง
ลอว์เรนซ์ บีส์ลีย์ คือหนึ่งในผู้โดยสารเรือไททานิก เที่ยวปฐมฤกษ์เที่ยวแห่งประวัติศาสตร์ เขาได้รับเรียกให้ลงเรือชูชีพขณะที่ไททานิกกำลังอับปาง เขาเห็น เขารู้สึก เขาได้ยิน และเขากำลังบอกเล่าทุกเรื่องราวเหตุการณ์นั้นผ่านหนังสือเล่มนี้
นาทีสุดระทึกขวัญขณะอยู่บนเรือชูชีพ และเห็นไททานิกดำดิ่งสู่ก้นมหาสมุทรกับตา การอยู่บนเรือชูชีพท่ามกลางความมืดของท้องทะเล คือความหวังว่าจะมีใครมาให้การช่วยเหลือ เพราะก่อนไททานิกจมได้ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือจากเรือลำอื่น ตลอดเวลาท่ามกลางความมืด ความหดหู่ ความสลดใจต่อเหตุการณ์ ข้อคิดของชีวิตต่าง ๆ ได้เกิดขึ้น บรรยากาศของผู้รอดชีวิตในเรือชูชีพ ผู้ที่ผ่านการเห็นเรืออับปางไปต่อหน้าต่อตา พร้อมเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากผู้คนที่ตกจากเรือลงสู่ทะเล เป็นอีกแง่มุมของเหตุการณ์ที่ไม่ค่อยได้อ่านจากหนังสือเล่มอื่น ๆ เหนืออื่นใดให้เราได้ฉุกคิดว่า อย่าไว้ใจมาตฐาน และคำโฆษณาชวนเชื่อจนเกินไป เฉกเช่น “ไททานิก เรือที่ไม่มีวันจม” ลำนี้